ประวัติคริสตจักรความหวัง

คริสตจักรของเราได้เริ่มนมัสการอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน ปีค.ศ. 1981 โดยมีคนร่วมนมัสการในครั้งนั้นเพียงไม่กี่คน แต่เพราะเหตุพระเจ้าเป็นผู้สำแดงพระองค์แก่ผู้รับใช้ของพระองค์ จึงทำให้คริสตจักรความหวังกรุงเทพฯ จำเริญขึ้นทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องหมายสำคัญที่พระเจ้าทรงกระทำต่อพี่น้องของเราในช่วงเวลานั้น ทุกๆสัปดาห์พระเจ้าจะทรงบอกตัวเลขอย่างเจาะจง ในระหว่างการประชุมอธิษฐานว่าจะมีคนมาร่วมเท่าไร และก็เป็นจริงตามนั้นทุกสัปดาห์ จนไม่นานนักคริสตจักรแห่งนี้ก็จำเป็นต้องย้ายจากห้องประชุมชั้น 9 โรงพยาบาลกรุงเทพฯคริสเตียนลงมายังชั้น 6 ของโรงพยาบาลเดียวกัน

พระราชกิจของพระเจ้า ยังคงดำเนินต่อไปอย่างเกิดผล เพียงไม่ถึงปี คริสตจักรก็จะเป็นต้องหาสถานที่แห่งใหม่ เพื่อรองรับจำนวนผู้เชื่อใหม่และสมาชิกที่เพิ่มพูนขึ้นทุกๆสัปดาห์ ในเวลานั้นคริสตจักรได้ย้ายไปใช้ห้องประชุมโรงแรมเชอราตัน บนถนนสุรวงศ์ นับเป็นคริสตจักรรายแรกๆ ที่เช่าโรงแรมเป็นสถานนมัสการ เพราะในช่วงเวลานั้น คริสตจักรส่วนใหญ่มักสร้างอาคารบนที่ดิน หรือไม่ก็เช่าอาคารเป็นคริสตจักร เมื่อคริสตจักรของเรากระทำตามการทรงนำของพระเจ้า เพียงไม่นานนั้นห้องประชุมโรงแรมเชอราตัน ก็ไม่อาจรองรับการเจริญเติบโตได้ คริสตจักรจึงจำเป็นต้องย้ายอีกครั้ง และครั้งนี้เราตัดสินใจย้ายไปใช้โรงภาพยนตร์ออสก้า บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งสามารถรองรับได้รอบละ 800 คน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์คริสตจักรในประเทศไทย ที่ไปใช้โรงภาพยนตร์เป็นสถานนมัสการพระเจ้า

จาก 1 รอบ เป็น 2 รอบ และเป็น 4 รอบในวันอาทิตย์ ทำให้คริสตจักรของเราเป็นที่กล่าวขานไปทั่วประเทศถึงการเกิดผล และวิธีรับใช้แบบความหวังก็ถูกส่งต่อด้วยการเปิดสถาบันศาสนศาสตร์ขึ้นเป็นครั้งแรกที่สถานนมัสการแห่งนี้ โดยในสมัยนั้นเราเรียกว่า BSP ซึ่งต่อมาเราเปลี่ยนเป็น HBI เพื่อรองรับการเจริญเติบโต พระเจ้าทรงรับรองเราเพราะศุภนิมิตในการออกไปตั้งคริสตจักรของพระเจ้าให้ครบทุกอำเภอภายในปีค.ศ. 2000 นั้นถูกกระทำจนสำเร็จในปี 1999 ก่อนถึงกำหนดเสียด้วยซ้ำ ซึ่งในช่วงเวลานั้นคริสตจักรของเราได้ย้ายมาอยู่ที่ใกล้ตึกไทยคลองเตย อันเป็นอาคารจอดรถ ที่เราได้เข้าร่วมประมูลจากกรมบังคับคดีด้วยเงิน 72 ล้านบาทในเวลานั้น นับเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืมของสมาชิกที่เสียสละในช่วงเวลานั้น ที่ต่างคนต่างยินดีขายทรัพย์สินของตนเพื่อซื้ออาคารที่จอดรถ มาปรับปรุงเป็นสถานนมัสการของเราเอง โดยได้ใช้ชื่อว่า “อาคารโฮปเพลส”

คริสตจักรได้เผชิญกับปัญหามากมาย ปีแล้วปีเล่า แต่คริสตจักรของพระเจ้าก็สามารถผ่านอุปสรรคเหล่านั้นมาได้ทุกครั้ง เพราะคริสตจักรนั้นเป็นดั่งแก้วตา ดวงใจของพระเจ้า พระองค์ไม่เคยปล่อยให้เราล้มเหลว หรือทอดทิ้งเราเสีย วันนี้เรายังคงเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างสรรค์สังคมไทยผ่านคริสตจักรแห่งนี้

**** บทความนี้เป็นเพียงประสบการณ์และมุมมองของผู้พัฒนาเว็บไซต์ มิอาจนำไปอ้างอิงทางกฏหมายได้ ***